วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

การจัดการเกี่ยวกับบทความ

วงศ์ปลากด

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วงศ์ปลากด
ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: อีโอซีน-ปัจจุบัน
ปลากดคัง (Hemibagrus wyckioides)
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร:Animalia
ไฟลัม:Chordata
ชั้น:Actinopterygii
อันดับ:Siluriformes
วงศ์:Bagaridae
Hamilton, 1822
สกุล
วงศ์ปลากด (ชื่อวิทยาศาสตร์: Bagaridae) เป็นปลาหนังไม่มีเกล็ด มีส่วนหัวค่อนข้างแบนราบ แต่ลำตัวแบนข้างไปทางด้านท้าย ปากกว้างอยู่ที่ปลายสุดของจะงอยปาก มีฟันซี่เล็กแหลมขึ้นเป็นแถวบนขากรรไกรและเพดาน มีหนวด 4 คู่ โดยคู่ที่อยู่ตรงริมฝีปากยาวที่สุด ครีบหลังและครีบอกเป็นก้านแข็ง หรือเรียกว่า เงี่ยง ครีบไขมันค่อนข้างยาว ครีบหางเว้าลึก ในตัวผู้มักมีติ่งเล็กๆ ที่ช่องก้น มีการกระจายพันธุ์ตามแหล่งน้ำจืดไปจนถึงน้ำกร่อยตั้งแต่อนุทวีปอินเดีย, เอเชียอาคเนย์ไปจนถึงหมู่เกาะซุนดา พบประมาณ 200 ชนิด
สำหรับในประเทศไทย จัดเป็นปลาหนังวงศ์ที่พบมากชนิดที่สุดของไทย โดยพบมากกว่า 25ชนิด เป็นปลากินเนื้อ มีนิสัยดุร้ายก้าวร้าว มีพฤติกรรมมักกบดานอยู่กับพื้นนิ่ง ๆ ถ้าไม่พบอาหารหรือล่าเหยื่อจะไม่เคลื่อนไหว กินอาหารได้หลากหลาย ตั้งแต่แมลง, ปลา, กุ้ง, ซากพืชซากสัตว์เน่าเปื่อย
เป็นปลาเศรษฐกิจที่สำคัญ นิยมนำมาบริโภคบ่อย ปลาในวงศ์นี้ มีชื่อสามัญเรียกในภาษาอังกฤษว่า "naked catfish" หรือ "bagrid catfish" สำหรับในภาษาไทยมักเรียกรวม ๆ กันว่า "ปลากด" ในปลาขนาดใหญ่ และ "ปลาแขยง" หรือ "ปลามังกง" ในปลาขนาดเล็ก โดยมีสกุลที่ใหญ่ที่สุดคือสกุล Rita ที่พบได้ในประเทศอินเดียและแม่น้ำสาละวินที่เมื่อโตเต็มที่อาจใหญ่ได้ถึง 2เมตร[1][2][3]
                

                                        




วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ทดสอบแทรกรูปภาพ

วิดีโอ

วิดีโอ

วิดีโอ

ลิงก์

ปลากดอเมริกัน
ปลากดหลวงในกระชัง
ปลากดคัง
ปลากดเสือ
วงศ์ปลากด
ปลากดคัง
การตกปลากด
เพิ่มเติมวิธีการตกปลากด
เหยื่อตกปลากด
เทคนิกการตกปลากด

ปลากดอเมริกัน

ปลากดอเมริกัน ชื่อสามัญ (อังกฤษ: Channel catfish) เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่งในอันดับปลาหนัง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ictalurus punctatus อยู่ในวงศ์ปลากดอเมริกัน (Ictaluridae)มีรูปร่างคล้ายปลาในวงศ์ปลากด (Bagridae) และปลาในวงศ์ปลาสวาย (Pangasiidae) รวมกัน มีหัวขนาดใหญ่ ปากกว้าง มีหนวด 4 คู่ คู่ที่รูจมูกสั้น คู่ที่ริมฝีปากและคางยาว ลำตัวเรียวยาวและแบนข้างที่ส่วนท้าย มีเงี่ยงที่ครีบหลังและครีบอก ครีบไขมันมีขนาดเล็กและสั้น ครีบก้นยาว ครีบหางเว้าลึก ลำตัวมีสีเทาอมน้ำตาลหรือเหลือง ด้านท้องมีสีจาง มีประสีดำกระจายอยู่ห่าง ๆ ในปลาที่มีขนาดเล็กกว่า 20 เซนติเมตร ครีบมีสีคล้ำ
สำหรับในประเทศไทยถูกนำเข้ามาครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2533 โดยสถาบันพัฒนาแห่งเอเซีย (AIT) และกรมประมง โดยนำพันธุ์ปลามาครั้งแรก 50 คู่ ใน และสามารถเพาะพันธุ์ได้ในปี พ.ศ. 2534 โดยมีชื่อเรียกในภาษาไทยว่า "ปลากดหลวง" ซึ่งปัจจุบันประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ในการเพาะขยายพันธุ์เลี้ยงในกระชังและเขื่อนเก็บน้ำในหลายพื้นที่ เช่น ที่เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ หรือที่จังหวัดนครสวรรค์ เป็นต้น แต่ก็มีจำนวนประชากรบางส่วนที่หลุดรอดออกสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ โดยหลุดออกมาครั้งแรกหลังเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2538
นอกจากนี้แล้ว ยังนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตัวที่เป็นปลาเผือก